Dug Days

“My name is Dug. I have just met you, and I love you.”

ประโยคจากตัวละครที่ขโมยหัวใจของใครหลายคนอย่าง “ดั๊ก” เจ้าหมาจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง “Up” ดั๊ก คือหมาพันธ์ุโกลเด้น รีทริฟเวอร์ ที่แสนซื่อ ขี้เล่น ร่าเริง สามารถพูดได้ผ่านปลอกคอแปลภาษาที่ปรากฏตัวออกมาเพื่อครองใจปู่คาร์ลและผู้ชมทั่วโลก หนึ่งในตัวละครแสนรักของทาสหมาที่เราอยากหยิบยกมาพูดถึงเนื่องในโอกาส “วันสุนัขโลก (International Dog Day)” กับ Neighbor Talk ฉบับนี้

จาก Up ที่เล่าถึงเรื่องราวผจญภัยของ คาร์ล เฟรดริกเซน และเด็กน้อยรัสเซล ที่เผอิญได้มาเจอเข้ากับ “ดั๊ก” เจ้าหมาที่สวมปลอกคอพูดได้ สู่ภาคต่อที่เป็น Short Series อย่าง “Dug Days” แอนิเมชั่นเรื่องสั้นระหว่างความสัมพันธ์ของปู่คาร์ลและดั๊ก ตัวหนังเล่าถึงชีวิตประจำของทั้งคู่ โดยที่นำเสนอความเป็นธรรมชาติของหมาให้เราเข้าถึงได้ง่ายและกินใจเพราะปลอกคอแปลภาษาของดั๊ก ที่สื่อสารความรู้สึกนึกคิดออกมาได้อย่างน่าเอ็นดู และอีกอย่างคือเราจะได้เห็นมุมที่อ่อนโยน ใจเย็นของปู่คาร์ลต่างจากคาแรคเตอร์ที่วางไว้ให้ดูเป็นมนุษย์ลุงอารมณ์ร้อน ขี้โมโหไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อดั๊กได้เข้ามาเป็นส่วนนึงของครอบครัว

Dug: Papa, am I just a pet?
Carl: Well… you’re my dog. Sure, I do things for you, but you get me through my day. You protect the yard, the house, heck the whole neighborhood!
You are my pet… but you’re also my best friend… You’re a good boy, Dug.

บทสนทนาจากฉากหนึ่งใน Dug Days ที่บอกว่า “ดั๊ก” คือเพื่อนที่ดีที่สุดในช่วงชีวิตนี้ของคาร์ลหลังจากที่แอลลี่จากไป แม้คาร์ลจะรับดั๊กมาเลี้ยงแต่หากมองในอีกมุม ดั๊กเองต่างหากที่เข้ามาช่วยขัดเกลาความเหงา และเติมเต็มหัวใจของคาร์ลให้อิ่มฟูในแต่ละวัน ดั๊กคือตัวแทนของความรักอันบริสุทธิ์ ความสดใสและไร้เดียวสาที่เปลี่ยนวันธรรมดาให้มีเรื่องเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา

ดั๊ก คือภาพแทนของสัตว์เลี้ยงแสนรักของมนุษย์ เราเชื่อว่าหมาและคนผูกพันกันมาอย่างยาวนาน ทุกวันนี้มนุษย์รับสุนัขเข้ามาในชีวิตไม่ใช่เพียงเพื่อเฝ้าบ้านหรือผ่อนแรงช่วยทำงานอีกต่อไป เราเปิดประตูให้เจ้าสี่ขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและครอบครัว สิ่งมีชีวิตที่จะเติมเต็มแต่ละวันให้มีคุณค่าและความหมาย เป็นเพราะสุนัขมาพร้อมกับความรักอันยิ่งใหญ่และจริงใจที่สุดเท่าที่มนุษย์จะหาได้ มีแต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียวนั่นคือ เวลาที่สุนัขจะมอบให้กับเราได้ช่างแสนสั้น เราอาจเคยได้ยินคนพูดกันมาว่า “1 ปีของคนเราเทียบเท่า 7 ปีของหมา นั่นแปลว่า 1 วันของเราเท่ากับ 7 วันของเค้า 1 นาทีของเราเท่ากับ 7 นาทีของเค้า” นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกครั้งที่หมาเจอหน้าเราจะดีอกดีใจ สั่นหางดุ๊กดิ๊กเสมอ เพราะเวลาของเค้าเดินนำหน้าไปถึง 7 ก้าว และแม้เราจะรู้ว่าสักวันช่วงเวลาที่หัวใจสลายจะมาถึง ถึงอย่างนั้นมนุษย์ก็ยังคงโอบรับและเลือกสุนัขให้เป็นเพื่อนแสนรักเสมอไป อาจเป็นเพราะความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นมาในรูปแบบของเจ้าหน้าขนและแววตาใสซื่อที่รอคอยและยินดีกว่าใครยามเรากลับบ้านเสมอ

ถนอมและโอบกอดช่วงเวลากับเจ้าสี่ขาที่บ้านให้ดี และอย่าลืมแบ่งปันความรักให้กับตูบและเหมียวข้างทางบ้าง เพราะในท่ามกลางโลกที่วุ่นวายนี้ รักแท้แบบไร้เงื่อนไขยังมีอยู่จริงในสิ่งมีชีวิตที่เราเรียกว่า “สุนัข”

แด่ทุกหัวใจของสัตว์เลี้ยงแสนรักบนโลกใบนี้และบนดาวอันแสนไกล และขอให้เหล่าสี่ขาจรทั้งหลายได้พบพานกับบ้านที่อบอุ่น
Happy Dog’s Day 🐶🌈💛